Pivot point สำหรับการเข้าเทรดของ Buyer และ Seller

Pivot point สำหรับการเข้าเทรดของ Buyer และ Seller

1.เมื่อราคา Forex อยู่แดนลบของ Pivot points แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้ ผู้เทรดส่วนมากจะทำการสั่ง Sell
2. เมื่อราคา Forex อยู่แดนบวกของ Pivot point แล้วปรับตัวลดลงไปอยู่แดนลบ ผู้เทรดส่วนมากจะทำการเปิดออเดอร์สั่ง Buy
3. ทั้ง Buy และ Sell ที่กล่าวถึงสามารถใช้ได้กับทุกระดับของ Pivot point ไม่ว่าจะเป็นแนวรับหรือแนวต้าน

Pivot points แต่ละระดับเป็นแนวรับและแนวต้านของระดับอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น Pivot point R2 ตัวมันเองอยู่เหนือ R1 จึงเป็นแนวต้านของ R1 ในขณะเดียวกันก็อยู่ต่ำกว่า R3 จึงเป็นแนวรับของ R3 ในกรณีตัวอย่างนี้ใช้เป็นแนวคิดในการเทรด Forex ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น อย่าลืมว่าต้องดูทิศทางรวมทั้งวันที่อ้างอิงหรือเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้านี้ด้วยเส้น Daily pivot point ด้วย

Pivot point กับการแกว่งตัวของราคา Forex (sideways) 

Sideway เป็นการแกว่งตัวของราคา Forex จากบวกเป็นลบและกลับตัวจากลบเป็นบวกบ่อยครั้งในช่วงเวลาสั้นๆหากเทียบกับ Timeframe ที่กำลังดูอยู่ ซึ่ง sideway ของแต่ละคู่เงิน (Currency pair)  ในโบรกเกอร์ Forex แต่ละรายจะไม่เท่ากัน อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น จำนวนผู้เทรดที่แตกต่างกันของแต่ละโบรกเกอร์, ช่วงเวลาที่มีผู้เทรดมากที่สุดของโบรกเกอร์ต่างกันตามเวลาท้องถิ่น เป็นต้น
แต่มีข้อสังเกตุอยู่ประการหนึ่ง คือ Sideways มักจะเกิดขึ้นครอบคลุมบริเวณใกล้เคียง หรือคาบเกี่ยวบนเส้น Pivot points แต่ละระดับอยู่เสมอ ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นจะได้อธิบายในบทความต่อไป

Pivot points กับการเป็นแนวรับและแนวต้านของตลาด Forex

Pivot points กับการเป็นแนวรับและแนวต้านท้องตลาด Forex

แนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้าน คือ จุด ระดับ ราคา ที่ใช้เป็นจุดหมายว่าเมื่อราคาของตลาดไปถึงอาจจะกลับตัว น่าจะไม่สามารถไปต่อได้ ยกเว้นว่าหากมีปัจจัยเกื้อหนุนก็อาจจะทะลุไปต่อได้ ซึ่งก็จดมีแนวรับหรือแนวต้านหลายระดับเผื่อมีเหตุการณ์อย่างที่กล่าวมาแล้ว
โดยที่แนวรับ (Support) คือ ระดับที่อยู่ในแดนลบ คือต่ำกว่า Pivot point แทนด้วยตัวอักษร S ส่วนแนวต้าน (Resist) เป็นระดับที่อยู่ในแดนบวก คือสูงกว่า Pivot point แทนด้วยตัวอักษร R

Pivot points มีหลายระดับ

Pivot points สามารถบอกแนวรับและแนวต้านของตลาด Forex ของโบรกเกอร์แต่ละรายได้ง่ายๆ โดยผู้เทรด Forex และโบรกเกอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างขึ้นมาเอง ไม่ต้องกำหนดค่าใดๆ เพราะว่า Indicator ตัวนี้จะสร้างให้ทั้งหมดเพียงแค่ผู้เทรด Forex เปิดใช้งาน Indicator มีชื่อว่า Pivot points โปรแกรมเทรดหรือแพลตฟอร์มเทรด (Trading program or Trading platform) จะสร้างเส้น Pivot points level ในแต่ละระดับให้ทันทีทั้ง เส้นหลัก (Daily Pivot point), แนวรับ (S1, S2, S3, ..., Sn), แนวต้าน (R1, R2, R3, ..., Rn) และเส้นที่บอกกึ่งกลางระหว่างระดับ Pivot points แต่ละระดับอีกที่เรียกว่าเส้น Mid-pivot (M1, M2, M3, ..., Mn)

Pivot point ของโบรกเกอร์ Forex แต่ละราย

เนื่องจาก Pivot point เป็น indicator มาตรฐาน จึงไม่มีโบรกเกอร์ Forex รายใดสร้างหรือแก้ไขให้เป็นของตนเอง จะมีก็แต่ผู้ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูล, indicators, signal, trading system ที่ทำการแก้ไขปรับปรุง เปลี่ยนการตั้งค่า จากประสบการณ์ที่มี ความรู้ระดับสูง และการทดลองเทรด ที่สามารถทำกำไรได้จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะปล่อยตัวฟรีมาให้ผู้เทรด Forex ที่สนใจใช้ก่อน อันเป็นช่วงทดลองของเขา พอพิสูจน์ได้ว่าดีหรือไม่ พอผู้ให้บริการปรับปรุงได้จนเป็นที่น่าพอจะก็จะนำออกมาให้ดาวน์โหลดแบบเสียเงิน
Pivot point ที่มีผู้แก้ไขปรับปรุงและตั้งค่าเองก็มีอยู่มากมาย ทั้งแบบฟรีคือให้เราเป็นหนูทดลอง และแบบเสียเงินซื้อ ที่ผ่านการทดสอบแล้ว แต่ถ้าให้แนะนำ ไม่ควรเสียเงินซื้อ indicator ตัวเดียวโดดๆ ถ้าจะซื้อก็ควรเป็น Trading system ที่มีการรวม indicator หลายตัวร่วมกันทำงานและบางรายอาจจะมีการปรับปรุงการแสดงผลของกราฟให้ดูง่าย มีตัวชี้สัญญาณซื้อขาย มี alert ส่งเสียงเตือนเมื่อมีสัญญาณ และอีกมากมายตามแต่ว่าแต่ละรายจะใส่อะไรลงไปบ้างเพื่อดึงดูดให้ผู้เทรดสนใจสินค้าของตน

ถึงกระนั้นผู้เทรด Forex เองก็ควรมีความรู้เป็นของตนเองด้วยบ้าง ทั้งยังควรหาข้อมูลข่าวสารไว้ล่วงหน้าว่าวันเวลาใดที่เมื่อมีการประกาศอะไรออกมาจากประเทศต่างๆแล้วจะมีผลกระทบกับทิศทางตลาด Forex โดยรวม

Pivot Points ไม่ใช่การสุ่มเลือกโดยโบรกเกอร์ Forex

Pivot points คืออะไร

Pivot points คือ ระดับราคา (Price Level) ที่คำนวณจากการเคลื่อนไหวของราคา Forex ที่เกิดขึ้นมาในวันก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ซึ่งผู้เทรดจำนวนมาก ธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆใช้เข้าซื้อและออกจากการเทรด Forex ในโบรกเกอร์ Forex แต่ละราย

Pivot points คำนวณจากข้อมูลการเทรด Forex ในวันก่อนหน้า

ในการคำนวณเพื่อระบุตำแหน่ง Pivot points แต่ละวันจะใช้ราคา Forex ที่มีการเทรดกันก่อนหน้านี้หนึ่งวันมาคำนวณ ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละรายจะมี Pivot points ที่ไม่เท่ากันแต่วิธีการคำนวณจะเหมือนกันเป็นมาตรฐานสากล ราคาที่นำมาคำนวณ คือ ราคาสูงสุด (Highest price = H), ราคาต่ำสุด (Lowest price = L) และราคาปิด (Closed price = C)

สูตรการคำนวณ Pivot points 

(H+L+C)/3 = Pivot point
สิ่งที่ได้ คือ ค่าเฉลี่ยของระดับราคาที่เกิดขึ้นก่อนหน้าหนึ่งวัน ถ้าวันนี้ขณะที่ผู้เทรดกำลังทำการเทรด Forex ราคาปัจจุบันถ้าอยู่เหนือ Pivot point แสดงว่ามีแรงซื้อสูงกว่าเมื่อวานส่งผลให้ระดับราคาไปอยู่แดนบวกได้ ในขณะเดียวกันถ้าสมมติราคาอยู่ต่ำกว่า Pivot point แสดงว่ากำลังมีแรงขายมากจึงกดดันให้ราคาลงไปอยู่ในแดนลบ

Pivot points กับการเทรด Forex

Pivot points หรือ Daily pivot หรือ Center point ใช้เป็นเส้นอ้างอิงทิศทางของตลาดแบบวันต่อวันได้ เมื่อราคามีการปรับตัวจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนเหนือ Pivot point ได้ ผู้เทรดส่วนมากที่รอ sell จะใช้โอกาสนี้ทำการสั่ง sell เมื่อมีการ sell จำนวนมาก ระดับราคาจะเริ่มลดลง ผู้เทรดจะรอให้ราคากลับลงไปจนถึงระดับที่พอใจก็จะปิดออเดอร์เพื่อทำกำไร เมื่อมีการปิด Order มากๆ ถึงระดับหนึ่ง ราคาจะเริ่มชะลอตัว โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในแดนลบคือต่ำกว่าเส้น Pivot point ผู้เทรดก็จะเข้ามาสั่ง Buy เมื่อนั้น Buy กันมากจะเกิดแรงส่งระดับราคากลับไปในแดนบวกอีกครั้งหนึ่ง

กลยุทธ์การเทรด Forex พื้นฐานสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 2

การกำหนด Stop Loss โดยอ้างอิง Fractal
ผู้เทรด Forex ต้องกำหนดให้ถูกต้องหากอ้างอิงข้อมูลทิศทางแนวโน้มของตลาดจาก Fractal คือการกำหนด Stop Loss ต้องกำหนดที่ยอดของสัญลักษณ์ Up fractal และกำหนดที่ยอดของสัญลักษณ์ Low fractal ห้ามเข้าใจผิดและจำผิด ไปกำหนดที่ไส้แท่งเทียนทั้งราคา High และ Low เด็ดขาด ต้องกำหนดที่ปลายของสัญลักษณ์ Fractal เท่านั้น

เพราะอย่าลืมว่า Indicator ตัวนี้เป็นตัวส่งสัญญาณเตือนว่าราคาอาจจะไปต่อไม่ได้และมีการกลับตัวในช่วงนั้นๆ ถ้าราคากลับตัวจริงไม่มีปัญหาเพราะเราจะได้กำไร แต่ถ้าราคาไม่กลับตัว ผลคือขาดทุน แล้วถ้าผู้เทรดกำหนด Stop Loss ผิดตำแหน่งตามที่กล่าวไปแล้วจะทำให้ผู้เทรดขาดทุนและปิด Order เร็ว แต่โดยปกติแล้วถ้าไม่ใช่เทรนด์ยาวๆ จะไม่ค่อยเกิดการ Break Fractal อย่างมากราคาก็ไปจนถึงเกือบเท่า Fractal แล้วกลับตัว ผลก็คือ เรากำหนดผิดตำแหน่ง ทำให้ขาดทุนและปิด order ไปแล้ว แทนที่จะได้กำไรหากกำหนดได้ถูกตำแหน่งคือ ยอดของสัญลักษณ์ Fractal


กลยุทธ์การเทรด Forex พื้นฐานสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 1

กลยุทธ์การเทรด Forex พื้นฐาน
ช่วยให้ผู้เทรดสามารถอ่านชาร์ตแล้วใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้มาตัดสินใจใยการเทรดแต่ละ Order ได้ถูกต้อง แม่นยำ ทำกำไร แต่สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงสิ่งที่ควรจะทำเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้เทรกจะต้องทำตามทั้งหมด ทุกอย่างสามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และความชำนาญของผู้เทรดแต่ละคน

1. Fractal  ส่งสัญญาณการกลับตัว
Fractal เป็นตัวชี้วัด (Indicator) ตัวหนึ่งที่ผู้เทรดจำนวนมากใช้เป็นตัวบอกสัญญาณว่าราคาอาจจะมีการกลับตัวของทิศทางราคาในตลาด Forex โดยส่วนใหญ่แล้วหากตลาดอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีการผันผวนหรือการปรับตัวของราคาอย่างรุนแรง จะสามารถบอกสัญญาณได้ค่อนข้างแม่นยำและสามารถเชื่อถือได้พอสมควร ถ้าผู้เทรดสามารถใช้ร่วมกับการอ่านชาร์ตได้ก็จะช่วยยืนยันทิศทางตลาดได้

การยืนยันทิศทางตลาดด้วย Fractal
ผู้เทรดสามารถทำได้โดยการดูชาร์ตที่เกิดต่อจาก Fractal คือ ถ้าแท่งเทียน 2 แท่งที่เกิดต่อจาก Fractal นั้นมีการปิดราคาแล้วมีทิศทางเหมือนกัน จะเป็นการยืนยันว่าทิศทางตลาดจะเป็นไปในทิศทางดังกล่าวค่อนข้างแน่นอนแม้จะเป็นช่วงสั้นๆแค่เพียง 1 - 3 แท่งเทียนก็ตาม

แต่พึงจำไว้เสมอว่า Fractal ไม่ใช่ตัวชี้ขาดทิศทางราคาของตลาด ยังมีตัวชี้วัดอื่นๆอีกที่ผู้เทรดควรดูประกอบด้วยเพื่อความถูกต้องและความปลอดภัยของตัวผู้เทรดเอง

Popular Posts

Like us on Facebook

Flickr Images